True Visions Anywhere นำทรูวิชั่นส์ ติดตัวไปดูด้วยทุกที่ทุกเวลา

True Visions จัดงานพบปะพูดคุยกับบล็อกเกอร์เกี่ยวกับการปรับโฉมใหม่ของบริการ True Visions Anywhere ซึ่งเป็นการยกเครื่องใหม่ โดยคุณองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสาย Commercial มาเล่าให้ฟังถึงที่มาของบริการใหม่ล่าสุดนี้

คุณองอาจ ประภากมล กำลังเล่าเรื่องของ True Visions Anywhere

ปัญหาเดิมของ True Visions คือเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ (ด้วยกล่องความฝัน) เนื่องจากกล่องรับสัญญาณแบบเดิมใช้ระบบการป้องกันแบบเก่า เป็นเทคโนโลยีที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1997 (เก่ามากกกก) เพิ่งจะมาเปลี่ยนกันแบบยกเครื่องล้างบางเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ข้อดีที่สำคัญของกล่องแบบใหม่นี้คือ สามารถเพิ่มจำนวนช่องรายการได้ และเมื่อสามารถป้องกันการลักลอบรับชมได้ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ทาง True Visions จึงสามารถพัฒนาเพิ่มจำนวนช่อง และเพิ่มคุณภาพของช่องต่างๆได้ ในบัจจุบัน True Visions เพิ่มจำนวนช่องไปถึง 140 กว่าช่องแล้ว และกำลังเพิ่มต่อไปเรื่อยๆ

ทรู วิชั่นส์ มีเป้าหมายต้องการที่จะเป็นผู้นำ content ที่ดีที่สุด หลากหลายที่ดีที่สุดของตลาดเมืองไทย และเป็นเจ้าแรกของไทยในการถ่ายทอดสัญญาณการแข่งขันกีฬาระดับโลก ให้ได้รับชมกันในความคมชัดระดับ HD ในเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอล Premier League (EPL) ทางทรูวิชั่นส์ชี้แจงว่า ราคาที่เสนอไปเหมาะสมกับการลงทุน ถ้าสูงกว่านั้นจะไม่สามารถบริหารจัดการได้ และในเมื่อมีงบประมาณตรงนี้ที่ไม่ได้ใช้ ทาง True Visions จึงนำมาพัฒนาปรับปรุงคุณภาพของช่องรายการต่างๆให้กับทางสมาชิก

True Visions Anywhere คืออะไร?

ทรู วิชั่นส์ เอนิแวร์ มีให้บริการมาปีกว่าแล้ว โดยมี content กว่า 80 ช่อง แบ่งเป็นของ True Visions เอง 30 กว่าช่อง ที่เหลือเป็น content Free-to-air จากโทรทัศน์ดาวเทียมช่องต่างๆ เหตุผลที่เดิมมีช่องของ True Visions มีน้อยเพราะติดปัญหาเรื่องสิทธิ์ใน content ไม่สามารถเผยแพร่หลายช่องทางได้

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เกิดขึ้นตามพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปจากเดิม ความนิยมในการรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านทางช่องทางอื่นๆ (Multi-screen) ที่สูงขึ้น เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ และรองรับกับปัญหาเดิมๆของลูกค้า เช่น อยากดูรายการในเวลาที่ตัวเองไม่ว่าง หรือรายการที่เปิดมาดูไม่ทันตั้งแต่เริ่ม ต้นทุนในการวางระบบรองรับ True Visions Anywhere ใหม่นี้ สูงถึง 460 ล้านทีเดียว!!! เพื่อสามารถรองรับ user ได้ถึง 8 หมื่นคน โดย True มีโครงการจะทำ Cloud Service อยู่แล้ว และ ทรู วิชั่นส์ เอนิแวร์ เป็นโปรเจคนำร่องของโครงการนี้

วันนี้ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของ True Visions Anywhere เรียกได้ว่าเป็น v 2.0 โดยมีการเพิ่ม content ของ True Visions ขึ้นมาเป็น 65 ช่อง จากเดิม 35 ช่อง และเป็นพวก Free-to-air content อีก 50 กว่าช่อง นอกจากการเพิ่มช่องแล้ว ฟังก์ชั่นสุดพิเศษของ True Visions Anywhere โฉมใหม่นี้คือ

  1. รีไวนด์รายการสด (2 Hours Time-Shift) : ในขณะที่กำลังรับชม สามารถกดย้อนกลับรายการสดได้เลยทันที มากสุดถึง 2 ชั่วโมง
  2. ดูย้อนหลัง (2 Days Catch-up) : สามารถเปิดชมรายการที่ออกอากาศไปแล้วย้อนหลังได้มากถึง 2 วันด้วยกัน
  3. รายการตามสั่ง (Video On-Demand) : เลือกดูรายการพิเศษตามความต้องการของได้

หน้าตาของ True Visions Anywhere โฉมใหม่

ในงานมีการ Demo ทรูวิชั่นส์ เอนิแวร์ ให้ได้ชมกัน โดยอุปกรณ์สาธิตใช้ iPad ต่อเข้า projector โชว์ศักยภาพกันให้เห็นๆไปเลย สามารถใช้ได้กับอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการทุกเครือข่าย ไม่จำกัดเฉพาะ True เท่านั้น ระดับสัญญาณจะปรับตามความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่ใช้เชื่อมต่อ แบ่งเป็น 5 ระดับ เริ่มตั้งแต่แย่สุด (ประมาณ EDGE) จะมีแต่เสียงไม่มีภาพ ดีขึ้นมาหน่อยเป็น LOW ภาพเป็นช่องสี่เหลี่ยมเยินๆ ดีขึ้นมาอีกเป็น MEDIUM และ HIGH แต่ถ้าไม่มีเครื่องหมายแสดงเลย คือคุณภาพระดับ HD หมายความว่าส่งมาจาก source เต็มๆเลย โดยความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่แนะนำคือ 2mbps สำหรับช่องรายการปกติ และ 4mbps สำหรับ HD

Audio Only

Low Quality

High Quality

ในการเข้าใช้งาน ทรูวิชั่นส์ เอนิแวร์ เลือกได้ว่าจะ login ด้วย True ID หรือ Facebook Account และทำการ login เพียงครั้งเดียวระบบจะจำไว้เลย หลักคิดในการออกแบบ คือเชื่อในความเรียบง่ายในการใช้งาน จึงคิดวิธีการใช้งานให้ง่ายที่สุด เพื่อความสะดวกในการใช้งานให้เหมือน TV เมื่อเปิดแอพมาก็จะ Play สัญญาณเลย แต่สามารถตั้งปิดได้ เผื่อสำหรับคนที่ใช้ Data package แบบไม่ Unlimited

หน้าแอพ True Visions Anywhere จะมีเส้นแสดงว่ารายการเล่นอยู่ตรงไหนอยู่ (คล้าย YouTube) สามารถเลือกเลื่อน Time Shift ได้เลย สามารถเลือกรับฟังระบบ 2 ภาษาได้ด้วย แต่มีบางช่องที่จะไม่สามารถชมที่ต่างประเทศได้ เนื่องจากติดเรื่องสิทธิของช่องนั้นๆ ในแอพจะมีผังรายการออกอากาศด้วย แต่มีเฉพาะของ True Visions เท่านั้น ในส่วนของ Free-to-air (เก็บมาจากดาวเทียมต่างๆ) อันนี้ไม่มีนะจ๊ะ และอีกฟีเจอร์หนึ่งของ ทรูวิชั่นส์ เอนิแวร์ คือสามารถเลือกดูแบบ Video On Demand ได้ด้วย ตอนนี้ให้บริการดูฟรีอยู่ แต่ต่อไปจะเก็บเงินแบบ In-App Purchase (คำถามของ blogger ท่านหนึ่ง “มีช่อง AV มั้ยครับ?” :P)

User Interface

Time Shift

Channel Selection

Program Schedule

Video On Demand

ลูกค้า True Visions ที่ได้สิทธิดูฟรี 1 ปี คือ Platinum HD, Gold HD และ Super Entertainment โดยไม่ใช่ได้แค่สิทธิ์ตาม account สมาชิกเท่านั้น แต่สำหรับคนที่ติดตั้งหลายจุด ก็จะได้สิทธิเท่ากับจำนวนจุดที่ติดตั้งด้วย (อันนี้เยี่ยมมาก) ในอนาคตมีโครงการจะขยายไปให้บริการสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นลูกค้า True Visions อยู่แล้ว และมีโครงการจะทำโปรโมชั่นร่วมกับ Truemove H เป็น Package Data ที่ใช้ในการรับชม

ช่องทางในการชม True Visions Anywhere

ทรูวิชั่นส์ เอนิแวร์ จะเปิดให้สามารถชมได้ผ่านทางคอมพิวเตอร์ โดยเปิด Web Browser ไปที่ www.truevisions.tv และจะเปิดตัวแอพเวอร์ชั่นใหม่ ในวันที่ 1 พ.ค. นี้ สามารถ download ได้จาก Store ต่างๆ มีทั้งบน iOS และ Android โดย 1 สิทธิ์ จะสามารถดูได้จาก 1 ช่องทาง ในเวลาเดียวกันเท่านั้น ไม่สามารถเปิดหลายๆทางพร้อมกันได้ เช่น หากกำลังเปิดดูด้วยแอพใน iPad อยู่ แล้วจะเปิดแอพใน iPhone ด้วยสิทธิ์เดียวกัน เครื่องที่เปิดทีหลัง คือ iPhone จะไม่สามารถดูได้

Download True Visions Anywhere Application

  • iOS (App Store) : iPhone & iPad
  • Android (Play Store) : Phone Version | Tablet Version
    *เฉพาะ Android จะยังไม่มีฟีเจอร์ Time Shift เนื่องจากติดปัญหาที่ตัว OS ทีมงานจะพยายามแก้ไขต่อไป

บรรยากาศช่วง Q&A โดน blogger รุมซักกระหน่ำ

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ True Visions Anywhere สามารถเข้าไปดูได้ที่ anywhere.truevisions.tv สมาชิก True Visions รีบเข้าไป ลงทะเบียน ภายในวันที่ 31 พ.ค. นี้ เพื่อรับสิทธิ์ใช้งานฟรี 1 ปีนะคะ